วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เตรียมตัวหางาน สำหรับเด็กที่กำลังจบและเพิ่งจบ

สวัสดีน้องๆทุกคน โฮ่วๆๆ ช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงปิดเทอมของน้องๆทั้งหลายเนอะ ถ้าน้องๆที่จบแล้วพี่ขอยินดีด้วยน้าาา 4ปีนี่มันโหดมากๆ (พี่เข้าใจพวกแกเป็นอย่างดี และขอต้อนรับสู่โลกแห่งความจิง555)


ในโพสนี้ พี่จะแนะนำเรื่องงานให้น้องๆว่าควรเริ่มหายังไงดีเน้อ เพราะตอนที่พี่จบใหม่นี่เงิบแดกมาก อะไรแว่ะ ก่าจะหางานได้นี่มันยากขนาดนี้เรยหรอ สิ่งที่คาดหวังว่า จบมาแระบ.มาแย่งตัวเรย โน่วเลย ไม่มี.... ดังนั้น โพสนี้เหมาะกับคนที่ใกล็จบหรือจบแล้วแต่ไม่รุ้จะเริ่มหางานยังไงนะ

อย่างแรกเลยที่พวกแกต้องมีคือ ความขยัน ไม่นอนอยุ่แต่ที่บ้าน 55555 ขอให้รุ้ไว้ว่าถึงพวกแกจะจบไปแล้ว แระคิดว่าจะมีเวลามหาศาลให้หางาน คุณคิดผิดนาจาาา ความจิงบนโลกนี้มันไม่ได้สวยหรูแบบทุ่งราเวนเดอของพี่ริต้านะว่อยย 5555

ไม่หรอกก จะพักสักเดือน ไปทริปอะไรงี้ก้ไปเถอะ (ก้เรียนมาเหนื่อยนิเนอะ ต้องพักบ้างจิ) แต่ขอให้รุ้ว่ามันควรมีจุดจบของการพักแระออกตามล่าหางาน ยิ่งเร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดีนะน้องๆ

เหตุผลที่พี่ต้องบอกแบบนี้เพราะว่า
1. บางบริษัทใหญ่ๆ เค้าเปิดรับปีล้ะครั้งนะจ่ะ แระปีถัดไปเราสามารถการันตีว่าเค้าจะเปิดรับอีก บางที่เปิดรับคนล้ะตำแหน่ง ก้อาจจะสมัครไม่ได้เพราะเค้าอาจจะเปิดรับตำแหน่งอื่น หรือเรียกวุฒิคนล้ะวุฒิกะที่น้องถืออยุ่ก็อาจจะเป็นได้นะเออ
2. บางที่ต้องเตรียมตัวสอบพอตัว เพราะก้จะมีข้อสอบทางการของบ.นั้นๆ แระก่าจะได้รุ้ผลก่าจะเรียกสัมพาด บลาๆๆ ก้กินเวลา อาจจะเปนไปได้ถึงสองเดือนนะเออ 
3. ยิ่งได้งานเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะส่วนใหญ่น้องๆจะเติบโตไปกะสิ่ง ที่บ.อื่นๆบ้ากันมาก นั้นก้คือ "ประสบการณ์ปีของการทำงาน"

อ่า..อ่านมากันถึงจุดนี้ พวกแกคงคิดว่า เออ มันดูซีเรียสแนะ (อ่ะรุ้ทันพวกแกบางคนที่บอกว่า พี่ผมไม่คิดงี้ง่ะ อันนี้ ย้อนกลับไปอ่านใหม่ ตั้งสติแระ ถามตัวเองว่าเข้ามาอ่านทำไม เพราะนั้นเปนตัวบ่งบอกว่าพวกแกยังไม่ได้อยากหางานพอตัว555555)

โฮกกก...ลากกลับมากลับมาตรงนี้ แระทีนี้จะทำยังไงอ่าพี่???

พี่บอกเลย สำหรับเด็กที่เข้ามาอ่านก่อนจบนะ จะมีชัยไปก่าครึ่งเพราะพี่จะแนะนำเป็นข้อๆเรยว่าควรทำไรบ้าง สำหรับเด็กที่เพิ่งจบใหม่ ก้ทำตามไป มันอาจจะช้าหน่อย เพราะมาเตรียมทีหลังไง (ถ้ามีคนแนะนำแล้วหรือมันไปซ้ำกะในเน็ตบางที่ก้ขออภัย แต่ต้องบอกเลยว่า พี่เขียนเพราะหวังดีจิงๆก้อยากให้น้องๆทำงานเร้วๆคืนทุนพ่อแม่งายยย)

อ่ะ นี่คือสิ่งที่พี่อยากให้พวกแกต้องเตรียมเอาไว้
1. ก่อนอื่นเราลองมองหาสิ่งที่เราชอบ/ไม่ชอบมาก่อน หามาให้ได้อย่างล้ะ5ข้อ แระลองหาตามเน็ตว่ามีอาชีพไหนบ้างที่เราทำได้ อันนี้พี่บอกเรยว่าพี่ทำมันได้แย่มาก เพราะพี่ไม่รุ้จิงๆ พี่ก้เรยโทรถามเพื่อนๆแระให้มันบอกว่าเรามีดีมีเสียอะไรบ้าง เพราะคนรอบตัวเรานี่แหละจะเปนคนบอกว่าเราเปนคนยังไง บางทีเราไม่ได้อยุ่กะตัวเองมากพอไง พอรุ้ตัวอีกทีก้โอ้วว "ชัลไม่รุ้ใจตัวเอง สะแล้ว" 5555 อีกอย่างที่แนะนำได้ในโพสนี้ คือ ลองเข้าไปทำพวก attitude test ตามเน็ตแระดูผลว่าเราเปนคนยังไงกันแน่

อันนี้ก้สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในการใช้สัมพาดของบ.บางที่ได้เช่นกัน เพราะบางที่เค้าอยากรุ้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร (คำถามเชิงนี้จะวัดว่าตัวน้องรู้จักตัวตนของตัวเองมากแค่ไหนนั้นเอง)

2. Resume 
เรซูเม่เป็นอาวุธอันดับแรกของเด็กจบใหม่เรยก้ว่าได้ เพราะอะไรน้ะหรอ เพราะว่าจะไปสมัครบ.ต่างๆ เค้าต้องดูประวัติย่อยๆจากตัวคุณไง ถ้าจะทำให้รุ้ก้ต้องเขียนเรซูเม่ เพราะมันเป็นสิ่งแรกที่บ.จะดู แระตัดสินว่าคุณทำงานให้เค้าได้ไหม ส่วนวิธีการเขียนเรซูเม่ก้มีมากมาย template พวกแกไปหาตามเน็ตเอาเนอะ พี่แนะนำว่า เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เราควรใส่ 1. Personal information เป็นส่วนของตัวเราเอง บอกว่าเราเกิดเมื่อไหร่ มีแฟนยัง ผ่านเกณทหารไหม (สำหรับผช) แระข้อมูลต่างๆที่บอกคร่าวๆให้บ.รุ้เกี่ยวกะตัวเรา  2.objective and summary of qualification พาร์ทนี้ คือสำคัญมากกกกกกกก เพราะว่าเป็นสิ่งที่เค้าจะตัดสินว่าน้องมีความสามรถกะตำแหน่งที่เค้าค้นหาอยุ่หรือป่าว แระเปนตัวที่เพิ่มโอกาศให้กะน้องๆในการเรียกสัมพาดงาน.. objective คือบอกว่าเราหางานอะไรคร่าวๆ เราอยากทำงานอะไร เช่น จบการเงินมา ก้อยากทำการวิเคราะห์งบการลงทุนไรงี้ ส่วนsummary of qualification คือสิ่งที่น้องต้องบอกว่า เรามีดีอะไร (ไม่ใช่เมคอัพขึ้นมานะ) ส่วนใหญ่ก้มาจากวิชาที่แกเรียนอ่าแหละ อะไรที่ได้เกรดดีๆ แระพราวลี่พรีเซ้นก้ใส่ไปได้ 3. work (internship) experience อันนี้เอาไว้บอกว่าเราเคยทำงานที่ไหนมาก่อนไหม ถ้าคนที่ไม่เคยฝึกงานก้ใส่พวก กิจกรรม งานอมรบต่างๆเข้าไปก้ได้เหมือนกัน 4.Skills อันนี้พี่คิดว่าที่ใส่ได้แน่ๆเรย คือ microsoft office เพราะพวกแกคงได้ฝึกใช้มาเยอะแระใช่มะ แระอีกอย่างก้พวกภาษาที่สาม

*Note: ส่วนEducation มันต้องเขียนอยุ่แล้วว่าเรามาจากม.ไหน เพราะฉนันพี่ไม่รวมนะ (เอาเฉพาะที่หลักที่อยากเน้น)

ทั้ง4อย่างนี้คือ สิ่งที่เด็กจบใหม่ควรจะใส่ไปในเรซูเม่ เพราะ บ.จะได้ตันสินใจถูกต้องว่าจะเลือกน้องไปทำงานในตำแหน่งที่เค้าขาดคนได้ไหม

เอาตรงๆต้องบอกว่า ถ้าเรซูเม่เราสวย+น่าสนใจ จะดีแระมีชัยในโอกาศการเรียกไปสัมพาดมากก่าครึ่งนาจา เพราะฉนั้นทำให้ดีๆ ควรให้อจ. หรือ เพื่อนๆดูก่อนก้ได้ว่าดีไหม ดีไซของเรซูเม่น้องโหลดตามเน็ตไม่ก้หาใน word ได้เรยนะ หรือถ้าดีไซเองก้ดี อันนี้คือเก่งมาก พี่แค่แนะนำสิ่งที่คิดว่ามันประหยัดเวลา55555

3. Cover letter
ส่วนตัวอันนี้มันดี ถ้าจะส่งdirect e-mail ไปทางฝ่ายHRอ่านะ เพราะมันดูดีก่าอยุ่ดีๆก้ส่งเรซูเม่ไปเดี่ยวๆ ส่งอันนี้พร้อมเรซูเม่ของเรา ทางHRเค้าจะได้รุ้ว่าเราต้องการอะไร มาจากไหนคร่าวๆ
*ขอบอกว่า เราควรหาข้อมูลบ.ที่เราจะส่งไปก่อนดีๆเด้อ เพราะอย่างน้อยเวลา hr อ่านจะได้รู้ว่าเราทำการบ้าน และสนใจในตัวบริษัทเค้าเท่าไหร่ จุดนี้พี่แนะนำได้ว่า อาจจะใส่ใน cover letter ว่าเราติดตามบริษัทนี้อยุ๋ เช่น มีเพื่อนๆพี่ๆเคยทำงาน ชื่อเสียงของบ.ไม่ว่าจะด้าน product หรือ marketing ของเค้า อยากร่วมงานกับคนที่ professional น้องมองว่ามันท้ามาย ก็ใส่ไปในนี้ได้นะ
4. ผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL, TOEIC, IELTS 
แนะนำเดกที่จบใหม่ ถ้าไม่มั่นใจมาก อย่าเพิ่งสอบ ielts toefl เพราะค่าสอบแพง พี่แนะให้ไปสอบ toeic เพราะใช้สมัครได้หลายบ. แระอีกอย่างสำหรับเด็กอินเตอร์แล้วพี่ว่ามันไม่ยากมาก

พี่แนะนำให้เดกที่กำลังจบเตรียมพวกนี้ ให้ทันก่อนจบสักเทอมหรือสองเทอมเนอะ จะได้ไม่เสียเวลามาทำทีหลัง สำหรับเดกที่จบแล้วก้นั้งเตรียมไป พี่แนะนำให้ไปสอบโทอิคให้ผ่านภายใน1เดือน หรือให้เร็วที่สุด ส่วนเรซูเม่แระโคเวอเลดเตอร์เราควรทำให้เสดหลังระหว่างรอผลสอบอยุ่

โอเค ทีนี้เตรียมทุกอย่างครบแล้วก้ สมัครงานเรย อย่างแรกเรยคือ สมัครตามเว็บต่างๆเช่น JOBTOPGUN. JOBTH, JOBTHAI, JOBSDB

และก้อย่ากลัวที่จะสมัครทางตรงจากเวปของบ. ต่างๆ บางที่จะมีให้ส่งเมลแจ้งเตือนว่ามีตำแหน่งเปิดรับสมัครอยุ่ อย่าลืมไปลงกันล้ะ อ่ออ..มีอีกที่ก้คือ พวก job fair ซึ่งส่วนใหญ่บ.ใหญ่ๆเค้าจะมารับสมัครเด็กจากมหาวิทยาลัย เราสมัครตรงนั้นก้น่าจะได้ อันนี้ลองตามข่าวจากม.ต่างๆดู

*อย่าลืมมาร์คเอาไว้ด้วยว่าเราสมัครที่ไหนไปบ้างนะ เพราะบางทีเค้าโทรมาไม่ทันตั้งตัว เราอาจจะเงิบแดกได้ กลายเปนว่าไม่ได้งานก้มีนะเออ

***ส่วนพาร์ทสุดท้ายที่พี่อยากแนะนำ ก้คือแนะนำการหางานสำหรับคนเกรดน้อย กิจกรรมด้อย
ต้องบอกว่า เอาจิงๆนะ อย่าเลือกงาน ไปเลือกงานจิงๆเรยหลังจากเรามีประสบการแล้วตอนที่ทำงานกะบ.แรก อย่างน้อยปีหรือสองปีไปแล้ว เพราะส่วนใหญ่เลยไปถึงจุดนั้นแล้ว เค้าจะไม่คิดว่าเกรดสำคัญอีกต่อไป5555 ถ้าอยากชุบตัวหน่อยๆ พี่แนะนำให้เรียนต่อป.โท เราจะได้รุ้มากขึ้นแระสร้างความแตกต่างกะเดกป.ตรีคนอื่นๆได้ (ความเหนส่วนตัวนะ บางทีไม่จำเปนก้ได้ เพราะค่าใช้จ่ายเยอะโฮกก แล้วแต่น้องๆตัดสินใจแระกาน)
หรือไม่ก้ลองไปสอบพวกใบเซอ หรือ อะไรที่เราคิดว่าเอามาใส่เรซูเม่ได้ เช่น สมัครสอบ CPA CFA อบรมตามม.ต่างๆ หรือฟรีสุดไรสุด ก้หาตามพวกเว็บดูๆเอา เช่นเวบ thaiMOOC เพื่อเอาใบเซอ มาเป็นเรฟในการฝึกงานได้จ้าส

ท้ายสุดถ้ามันหางานไม่ได้จิงๆ พี่แนะนำให้น้องลองทำ พาร์ททาร์ม (สำหรับคนงบน้อย) หรือไม่ก้ไปWork and travel (สำหรับคนงบเยอะ) เพราะจะได้มีอะไรมาอัพเดทกะเรซูเม่เราได้ไง

สุดท้ายยยแล้วจีๆ ก้อยากเปนกำลังใจให้น้องๆที่กำลังหางานอยุ่เน้อ มันจะเงิบช่วงจบใหม่ๆแหละสำหรับคนที่ยังหางานไม่ได้ พอหาได้เท่านั้นแหละ ก้สบายแล้ว!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น