ข้อสอบของมหิดลอินเตอร์เป็นอะไรที่พี่นั้งหาใน เพื่อนกูเกิล ก่อนสอบและ มันไม่ค่อยมีคนเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เรยย พี่ก็เลยอยากจะเน้นๆให้เลยยยนะ
สำหรับที่มหิดลอินเตอร์ เราจะแบ่งการสอบตรงในการคัดนร. เข้าศึกษานาจาา ข้อสอบเท่าที่พี่จำได้จะแบ่งเป็นพาร์ทใหญ่มากกคือ อังกฤษ และ อีกหลายๆวิชาที่สอบตอนช่วงบ่ายในการสอบเข้า ที่มหิดลอินเตอร์นั้น น้องๆต้องใช้คะแนน ภาษาอังกฤษ ยื่นครับ
ซึ่งหลักๆที่ พี่คิดว่าเด็กส่วนใหญ่ใช้ก็คือ
- Ielts ที่มีผล คะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 6.0 (score equvalent to or more than 6.0) โดยผลสอบต้องมีอายุไม่เกินสองปีนะ
- Toefl คะแนน 79 ขึ้นไป
- SAT คะแนน รวมพาร์writing 1,100 คะแนน
- ข้อสอบของมหิดลที่เค้าจัดทำขึ้นมาเอง (TOEFL Paper base)
สำหรับคนที่ยื่นคะแนนหนึ่งในสามข้อแรก ที่ทางมหิดลต้องการแล้ว ทีนี้ก็ชิลเลยย รอวันเวลา เตรียมตัวให้ดีไปสอบข้อสอบ เลข และ writing
ส่วนสำหรับคนที่ไม่ได้มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ ก้ไม่เป็นไร ทางม. เค้ามีให้จย้า โดยสอบข้อสอบในข้อ4แทนจร่ะ
ส่วนสำหรับคนที่ไม่ได้มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ ก้ไม่เป็นไร ทางม. เค้ามีให้จย้า โดยสอบข้อสอบในข้อ4แทนจร่ะ
เจาะลึก **เน้นๆๆๆ ยิ่งกว่าเน้นใน ข้อ4
พี่อยากจะบอกว่าที่น้องๆต้องจ่ายเงิน สองพันบาท แล้วจะได้mock-up exam มาดู มันอาจจะดูง่ายสำหรับบางคนช่ะ จริงๆแล้วข้อสอบจริงมันไม่ง่ายนะ ทุกคนต้องพร้อมจริงๆ ตอนพี่สอบอันนี้ บอกเลยว่ามึนมากก แต่ก็ต้องโทษตัวเองด้วยที่ไม่ได้เตรียมตัวเท่าไหร่นัก เพราะฉนั้น เตรียมตัวดีๆกันน้าทุกคน
พี่อยากจะบอกว่าที่น้องๆต้องจ่ายเงิน สองพันบาท แล้วจะได้mock-up exam มาดู มันอาจจะดูง่ายสำหรับบางคนช่ะ จริงๆแล้วข้อสอบจริงมันไม่ง่ายนะ ทุกคนต้องพร้อมจริงๆ ตอนพี่สอบอันนี้ บอกเลยว่ามึนมากก แต่ก็ต้องโทษตัวเองด้วยที่ไม่ได้เตรียมตัวเท่าไหร่นัก เพราะฉนั้น เตรียมตัวดีๆกันน้าทุกคน
ตรงนี้พี่ฝากทริคนิดนึงไว้นะ อยากให้น้องๆฝึกให้มากๆ ไม่ต้องซื้อหนังสือเล่มใหม่หรอกก เอาข้อสอบพวก ONET, GAT Eng. Ielts, Toefl PDF (หาตามเน็ต อันนี้มีเยอะ) มานั้งทำดูแนวไปก็ได้ ทำตัวให้ชินกับข้อสอบดีที่สุด พี่ว่าจับเวลาและพยายามทำให้ทันอันนี้ ดีสุดแระ
และเผื่อน้องๆสังสัยเอ๊ะและมันจะไปทำได้ยังงายย ลองหาเอาในพวก 4share หรือตามเว็บต่างๆดูก็ได้นะ
ขอยกเป็นตัวอย่างเนอะ นี่เลยย ลิ้งโหลดข้อสอบ TOEFL เป็นแบบ paper base ที่มูอิคเค้าใช้สอบกัน เอาไปฝึกกันนะ ทุกคน หุหุ
(ต้องขอขอบคุณ เจ้าของเพจข้างบนด้วยนะครับ ช่วยได้เยอะเลย)
เน้นๆ ต่อ พาร์ทข้อสอบอิ้งนี้ เป็นพาร์ทที่สำคัญสุดๆจิงๆนะ เพราะ ระดับอังกฤษน้องจะเป็นตัวตัดสินว่าน้องจะได้ พรีคอลเลจ (pre-college) หรือ คอลเลจ (college) เน้ออ
แต่ๆๆๆ มันยังไม่จบง่ายๆนะสิ 55555 เพราะสำหรับคนที่ผ่านพาร์ทอิ้งนี้ คือ ติดคอลเลจแล้ว ก็จะถูกแบ่ง 1.ให้ไปปรับพื้นฐาน แบบไม่มีเครดิต วิชา ERS หรือ 2. เริ่มเรียนเก็บเครดิตวิชา EC1ได้เลย ซึ่ง อันนี้ หลักๆเลย มันขึ้นอยู่กับพาร์ท writing ของน้องน้าา
ถ้าคนตรวจข้อสอบแล้ว น้องเขียนดีมากก เค้าก็จะให้ไป EC1 ซึ่งเป็นวิชามีเครดิต
ส่วนคนที่อ่อนการเขียน ก็จะได้ไป ERS เป็นแบบเรียนปรับพื้นฐานกันไปก่อน
แระถ้าถามว่าคนที่ติด ERS ภาษาอ่อนหรอ คำตอบคือไม่นะ พี่คิดว่าทุกคนที่ติดคอลเลจมีศักยภาพพอ เพียงแต่ รูปแบบการเขียนยังไม่ดีพอหรือป่าว เอาเปนว่า คนที่ติดพรีแระสอบได้คอลเลจแระมาติดERSอีกก้มี เพราะฉนั้นอย่าเสียใจที่ต้องเสียเวลาหนึ่งเทอมปรับพื้นฐาน การปรับพื้นฐานนี้พี่คิดว่ามันคุมค่านะจะบอกให้ (หรือใครคิดแบบไหนก้แล้วแต่เลย555 อันนี้ความเหนส่วนตัวเด้ออ...)
ซึ่งสองวิชานี้พี่เขียนไว้ในอีกพาร์ทนะ
ถ้าคนตรวจข้อสอบแล้ว น้องเขียนดีมากก เค้าก็จะให้ไป EC1 ซึ่งเป็นวิชามีเครดิต
ส่วนคนที่อ่อนการเขียน ก็จะได้ไป ERS เป็นแบบเรียนปรับพื้นฐานกันไปก่อน
แระถ้าถามว่าคนที่ติด ERS ภาษาอ่อนหรอ คำตอบคือไม่นะ พี่คิดว่าทุกคนที่ติดคอลเลจมีศักยภาพพอ เพียงแต่ รูปแบบการเขียนยังไม่ดีพอหรือป่าว เอาเปนว่า คนที่ติดพรีแระสอบได้คอลเลจแระมาติดERSอีกก้มี เพราะฉนั้นอย่าเสียใจที่ต้องเสียเวลาหนึ่งเทอมปรับพื้นฐาน การปรับพื้นฐานนี้พี่คิดว่ามันคุมค่านะจะบอกให้ (หรือใครคิดแบบไหนก้แล้วแต่เลย555 อันนี้ความเหนส่วนตัวเด้ออ...)
ซึ่งสองวิชานี้พี่เขียนไว้ในอีกพาร์ทนะ
***ขอบอกว่าคนที่ยื่น ielts, toelf ส่วนใหญ่ติดคอลเลจเนอะ แต่ติด ERS กันสะส่วนใหญ่ (พวกที่ได้คะแนน 6.0 part writing อ่ะ เตรียมตัวเตรียมใจเลย) ก็ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานตามๆกันไป
สำหรับพาร์ท เลข พี่บอกได้เลยว่ามันไม่ยากมากก เนื้อหาที่ออกสอบจะอยู่ประมาณม.ปลายๆ และไม่ได้ลึกมาก (ถ้าน้องเตรียมมาหรือ เรียนรร.รัฐ โดยเฉพาะพวกสายวิทย์นี่ได้เปรียบแน่นอลเพราะเลขออกยากน้อยก่าเกินข้อสอบแอดมิดชันเยอะ เด็กๆทั้งหลาย5555)
ซึ่งตอนมัธยม น้องเรียนไปหมดแล้ว เพียงแต่น้องมีเวลาทบทวนบทเรียนเก่าได้ดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
ประเด็นคือ ข้อสอบเลขจะเป็นตัววัดว่าน้องจะได้ระดับเลขอะไรอ่ะนะ ซึ่งถ้าน้องทำไม่ได้เลยยย น้องก็จะติด Refresher Math ถ้าน้องทำได้พองาม ก็จะติด Intensive Math ถ้าน้องทำได้เกินมาตรฐานของข้อสอบ น้องก็จะถูกจัดใน กลุ่มของFundamental Math ซึ่งสองตัวข้างหน้านี้ ไม่มีเครดิตนะครัช เหมือนน้องก็จะต้องปรับพื้นฐาน ซึ่งก็จะต้องเก็บแบบไม่มีเครดิตกันไปเทอม ถึงสองเทอม ถ้าติดอ่านะ สำหรับพี่ ถ้าถามว่าควรจะสอบให้ได้เลขระดับไหน พี่อยากบอกว่า เราควรตั้งใจสอบให้ไปเวลของfund math เลยนะ พี่เชื่อว่าเด็กรร.ไทย พวกหลักสูตรไทยทำได้อยุ่แล้ว เพราะพวกข้อสอบแอดมิดชันยากก่าเยอะะ สำหรับเด็กที่มีพื้นฐานเลขอ่อน หรือ ไม่ชอบเลขเรย ถ้าอยากจะปรับพื้นฐานก้ไม่ว่ากันจย้าา
ประเด็นคำถามยอดฮิตที่เจอน้องๆถาม ส่วนใหญ่ถามว่า ถ้าทำเลขไม่ได้ ยังติดคอลเลจไหม
คำตอบจากพี่เลยนะ มันไม่เกี่ยวกันชัวๆเลยและกัน (เอาสัก95%ติดคอลเลจแน่ๆ) เพราะผลสอบเลขจะเป็นตัววัดว่าน้องอยู่ระดับไหนและสมควรเรียนปรับพื้นฐานเลขไหมแค่นั้นเอง
เอาเปนว่าพี่จะแนะนำให้เตรียมตัวดีๆๆ อย่าพลาดมาก ถ้าไม่อยากเสียเวลาปรับพื้นฐานอ่านะ เพราะถ้าเสียเวลาปรับ มันก้จะเสียไปเทอมหนึ่งเลยนะ โอกาศจบ3ปีครึ่งก้น้อยลงไป (อันนี้เผื่อใครอยากจบแบบรวบรัด555)
ตรงนี้บอกเลยว่าแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะจำไม่ได้แล้ว จำได้แต่รอนานมากก5555 แระตอนที่โดนสัมภาษณ์มีอจ. 3 คน จะมาสัมภาษณ์เรา ถามเราเกี่ยวกับเมเจอร์ที่เราเลือก แบบ ทำไมเราเลือกเมเจอร์นี้ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เลือกเมเจอร์นี้ ถามเกี่ยวกะรร. กิจกรรมที่ทำ ทำไมถึงเลือกมหิดลอินเตอร์ ต่างๆที่จะเจออีกมากมาย
ต่อไปก็จะลองขอเก็งคำถามให้แระกานน (อาจไม่ตรงมากนะเพราะ พี่คิดขึ้นมาเอง ตรงมากน้อยเพียงใด มาบอกพี่ด้วยเด้อ)
คำถามแนว ศศ. ก้แบบ คิดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้มากน้อยแค่ไหนเทียบกับก่อนและหลังเข้าASEAN แรงงานพม่าแทนที่ไทยได้ไหมคิดว่าไง คิดยังไงกะนโยบาย attracting Chinese tourism มันมีผลกระทบต่อไทยยังไง มีหลากหลายคำตอบมากกก (ถ้าน้องตามข่าวอ่านะ555) ไม่มีถูกผิดด้วยมั้งง เพียงแต่จับโยงให้มันดูมีเหตุแระผลหน่อยแระกัน เช่น ก่อนอื่นเรยต้องบอกว่าtourist sector ที่ไทยกำลังโปรโมทนั้นเติบโตด้วยนักท่องเที่ยวประมาน 11%ของ GDP พี่คิดว่าก้ดีเหมือนกันนะในการที่ปท.ไทย ดึงนักท่องเที่ยวจีนมา ในแง่มุมของการกระจายรายได้ (income distribution) เพราะอย่างที่รุ้ๆกันสมัยนี้นักท่องเที่ยวจีนมีกำลังซื้อมากมาย ปท.ไทยตอนนี้ ก้ต้องการเงินไหล (capital inflow)เข้าปท.เพื่อฟื้นฟูหลังจากtomyum crisisบ้างแหละ(ถึงมันจะนานมากแระนะ แต่ปท.ไทยยังฟื้นไม่เต็มที่ สังเกตุได้จากการลงทุนต่างชาติ FDIอ่ะแหละ ไม่ค่อยเข้ามาไทยเท่าไหร่ถ้าเทียบกะปท.อื่นๆเช่น เวียดนาม อินเดีย) แต่ๆๆ ถ้าต้องการอันนี้ (เงินไหลเข้าปท) ก้คงต้องแลกกะ อัตราเงินเฟ้อแหละนะ เพราะno free lunchนิเนอะ ถึงยังไงอัตราเงินเฟ้อมันไม่ใช่ประเด็นที่น่าเปนห่วงสักเท่าไหร่ เพราะ BOT(รุ้จักกันใช่ไหม555) ต้อง target inflation อยุ่แล้วมันเปนหน้าที่ของเค้า
ส่วนตัว พี่มองว่าไม่ใช่จะปล่อยให้คนจีนทุกคนเข้ามาได้ อย่างน้อยต้องมีคัดกรองบ้างแหละ เพราะคนจีนบางคนมาบ้านเราก้ไม่ยอมใช้จ่าย เอาของฟรีไว้ก่อนหรือไม่ก้ยอมจ่ายหรือจ่ายน้อย แระบอกเรยคนจีนทำอะไรก้ได้ ลองมองย้อนกลับไปสมัยก่อนเส้ คนจีนมาบุกไทย บางคนมาแต่ตัว แระอดทนเก็บออม เก็บเงินแระก้มีดีจนถึงทุกวันนี้ อันนี้ก้อาจจะไม่ตรงประเด็นหลักของincreasing income distribution in short-run แต่ในlong-runไม่แน่ๆ (ไม่ได้จะบอกว่าคนจีนจะมาแย่งงานที่ไทยนะ ไม่เกี่ยวกัน555 เพียงแต่ต้องการจะบอกว่า ไม่ใช่คนจีนทุกคนมาเที่ยวแระจะยอมจ่าย หรือเปย์แบบสุด ก้ต้องยอมรับว่าบางคนขั้น งก ก้มีนะเออ) เพราะฉนั้นรัฐต้องออกมาควบคุม นโยบาย กฏหมายต่างๆนาๆควรปรับให้เข้ากะนักท่องเที่ยวจีน แระทีนี้ รัฐจะทำอะไรได้บ้างแหละ พี่มองว่า ปท.เรานั้น นอกจากมีผลผลิตของผลไม้ต่างๆที่ชาวจีนชอบ เช่น ทุเรียนแล้ว ไทยยังคงขาดความเป็นoriginal สินค้าพื้นบ้านเรามีก้จิง แต่บางอันก้ไม่ได้รับการโปรโมทมากมาย ดังนั้น รัฐต้องimplement infrastructure เพื่อรองรับ technology โปรโมทให้ทันยุคตามสมัยแบบพี่จีน เช่น cashless payment อะไรงี้ อีกอย่างที่รัฐทำได้คือ เข้าไปแทรกแซง หรือที่เรียกว่า set price floor เพื่อช่วยส่งเสริมในการกระจายรายได้ ประมานนี้ๆๆ (ความคิดเหนส่วนตัวล้วนๆเด้อ)
ถ้าคำถามเชิงธุรกิจหน่อย เปนพี่ พี่จะถามว่าอะไรคือ current business trends น้องก้ลองไปศึกษาดู พี่แนะนำได้แบบว่า เด่วนี้ก้จะมีธุรกิจแนว Omni-channel หรือ อะไรที่เกี่ยวกะสุขภาพ ฟิตเนส ต่างๆนาๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ ก้มาแรงสมัยนี้ 5555
ถ้าสายสังคม พี่ก้แนะนำให้ลองไปดูพวก บทบาทของ WTO, UN แระผลกระทบต่อปท. ไทยดู ไม่ก้เน้นไปที่ Trump นี่เรยเพิ่งผ่านไปหยกๆ ประเด็น trade war ที่นางปั่นป่วนทั่วโลก5555 ลองไปตามๆกันดู ส่วนหัวข้ออื่นไม่รุ้มากอ่ะ ลองไปดูๆกันเองเนอะ ^^
อ่อออ เห่ยย อีกอย่างถ้าใครอยากเอา Portfolio ไปด้วยก้เอาไปได้นะ ตอนพี่ พี่ก้เอาไป แต่อจ.ไม่ได้ดูเยอะเท่าไหร่ เปิดแบบผ่านๆ รูปไหนน่าสนใจก้ถามๆๆ สรุปถ้าเอาไปและมันสบายใจก้เอาไปนะ
ตอนที่พี่โดนสัมภาษณ์ เจออจ.ใจดี ซึ่งเค้ารู้ว่าพี่ตื่นเต้น เค้าก็หัวเราะๆออกมา ทำให้พี่หายตื่นเต้นไปเยอะเลยย แหะๆ
สรุป รวมๆแล้วชิลๆอ้ะพาร์ทนี้ พี่แนะนำว่าให้น้องๆอย่าไปเครียด ยิ่งเครียดยิ่งตอบไม่ได้นะเออ พยายามเปนตัวของตัวเอง ไม่ต้องเขิน เวลาตอบก้ตอบแบบมั่นๆ (ถึงคำตอบมันจะผิดอ่านะ ถ้าไม่รุ้คำตอบจิงหรือมันคิดไม่ทัน แนะนำให้น้องเริ่มด้วย น้องเชื่อว่า (I believe)....อะไรก้ว่าไปปป)
ปีที่พี่สอบ เป็นปี 2013 นะ อาจจะดูเก่าๆหน่อย แต่รับรองไม่เปลี่ยนไปเยอะหรอก
สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามูอิคนะคับ สู้ๆๆ 😉